111. จากรูป รถคันสีฟ้าและรถคันสีเหลืองต้องการจะเลี้ยวขวาเพื่อไปเลี้ยวซ้ายในซอยที่ 1 รถคันใดอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
1. รถคันสีฟ้า
2. รถคันสีเหลือง
3. เหมาะสมทั้งคู่
4. ไม่เหมาะสมทั้งคู่
112. จากรูป รถคันสีแดงและรถคันสีเหลืองต้องการไปในทิศทางเดียวกัน รถคันใดมีสิทธิไปก่อนเมื่อมีสัญญาณให้หยุดทั้งสองทิศทาง
1. รถคันสีฟ้า
2. รถคันสีเหลือง
3. เหมาะสมทั้งคู่
4. ไม่เหมาะสมทั้งคู่
112. จากรูป รถคันสีแดงและรถคันสีเหลืองต้องการไปในทิศทางเดียวกัน รถคันใดมีสิทธิไปก่อนเมื่อมีสัญญาณให้หยุดทั้งสองทิศทาง
2. รถคันสีแดง
3. คันใดก็ตามที่มาถึงทางแยกก่อน
4. คันใดก็ตามที่ขับด้วยความเร็วที่สูงกว่า
113. หากท่านพบสัญญาณไฟกะพริบสีแดงที่บริเวณทางร่วมทางแยก ท่านต้องปฏิบัติอย่างไร
1. ชะลอความเร็วลง และขับผ่านไปด้วยความระมัดระวัง
2. หยุดรถหลังเส้นหยุดรถ เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงขับผ่านไปด้วยความระมัดระวัง
3. ขับรถต่อไปตามปกติ เพื่อมิให้เกิดความล่าช้าแก่รถคันที่ตามมา
4. แจ้งเจ้าพนักงานว่าสัญญาณไฟจราจรขัดข้อง
114. หากท่านพบสัญญาณไฟกะพริบสีเหลืองที่บริเวณทางร่วมทางแยก ท่านต้องปฏิบัติอย่างไร
1. ชะลอความเร็วลง และขับผ่านไปด้วยความระมัดระวัง
2. หยุดรถหลังเส้นหยุดรถ เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงขับผ่านไปด้วยความระมัดระวัง
3. ขับรถต่อไปตามปกติ เพื่อมิให้เกิดความล่าช้าแก่รถคันที่ตามมา
4. แจ้งเจ้าพนักงานว่าสัญญาณไฟจราจรขัดข้อง
115. จากรูป ในกรณีที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร รถคันสีแดงหรือรถคันสีเหลืองมีสิทธิที่จะได้ไปก่อน
1. สามารถไปได้ในเวลาเดียวกัน
2. รถคันสีแดง
3. รถคันสีเหลือง
4. รถที่มีความเร็วสูงกว่า
117. การขับขี่ในบริเวณชุมชนที่ถูกต้อง ควรปฏิบัติอย่างไร
1. ขับด้วยความเร็วสูง
2. ขับด้วยความเร็วปกติ
3. ขับด้วยความเร็วปกติ แต่ชะลอความเร็วเมื่อพบป้ายเตือน
4. ขับด้วยความเร็วที่ต่ำ
118. ในการขับขี่ภายในชุมชน ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับสิ่งใด
1. ป้ายโฆษณาข้างทาง
2. รถโดยสารที่กำลังจอดและกำลังเคลื่อนที่ออก
3. สัตว์ที่ถูกปล่อยอยู่บนถนน
4. คนขี่จักรยาน
119. เมื่อขับขี่เข้าใกล้บริเวณทางม้าลายหน้าโรงเรียน ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
1. พยายามใช้ความเร็วคงที่ในการผ่านบริเวณนั้น
2. ขับรถชิดขอบทางด้านซ้ายด้วยความระมัดระวัง
3. ชะลอความเร็วลง
4. ให้สัญญาณเตือนผู้คนในละแวกนั้น
120. เมื่อขับรถเข้าใกล้บริเวณทางม้าลาย แต่ไม่มีคนข้ามทางม้าลาย ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
1. ใช้สัญญาณแตรเสียงสั้นเพื่อเตือน
2. ไม่ต้องให้สัญญาณ เพียงชะลอความเร็วลงก็พอ
3. ใช้สัญญาณแตรเสียงยาวเพื่อเตือน
4. ใช้สัญญาณไฟสูงเพื่อเตือน
121. หากท่านกำลังขับขี่เข้าสู่วงเวียน และพบรถขนาดใหญ่ที่กำลังเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายแต่ตัวรถค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปทางขวา ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
1. รักษาระยะห่างไว้
2. ให้สัญญาณแตร
3. แซงไปทางด้านซ้าย
4. ขับตามรถใหญ่
122. ข้อใดต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติในการขับขี่ผ่านวงเวียน (การขับขี่ผ่านวงเวียน)
1. ขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ
2. ขับแซงไปมา
3. ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
4. ให้สัญญาณไฟเลี้ยวก่อนออกจากวงเวียนเสมอ
123. ข้อใดเป็นการขับรถเข้าทางโค้งอย่างปลอดภัย
1. ลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง
2. ใช้ความเร็วสูงกว่าที่กำหนด
3. เปลี่ยนเกียร์ขณะเข้าทางโค้ง
4. เหยียบเบรกกะทันหันขณะเข้าทางโค้ง
124. หากรถคันสีเหลืองต้องการมุ่งหน้าตรงผ่านวงเวียน จะต้องเปิดไฟเลี้ยวซ้ายเพื่อออกจากวงเวียนที่ตำแหน่งใด
1. จุดที่ 2
2. จุดที่ 1
3. จุดที่ 3
4. เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายทุก ๆ จุด
125. จากรูป หากท่านกำลังขับตามหลังคนขี่จักรยาน แต่ท่านต้องการที่จะเลี้ยวซ้าย ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
3. จุดที่ 3
4. เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายทุก ๆ จุด
125. จากรูป หากท่านกำลังขับตามหลังคนขี่จักรยาน แต่ท่านต้องการที่จะเลี้ยวซ้าย ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
1. ชะลอความเร็วจนกว่าจักรยานจะผ่านทางเลี้ยว
2. พยายามแซงจักรยานก่อนที่จะถึงทางเลี้ยว
3. จอดรถเพื่อรอจนกว่าคนขี่จักรยานจะผ่านทางเลี้ยว
4. ทำการเลี้ยวโดยไม่ต้องสนใจจักรยาน
126. สิ่งใดที่ท่านควรระวังเป็นพิเศษเมื่อพบรถโดยสารจอดอยู่ในถนนฝั่งตรงข้าม
1. รถโดยสารอาจเคลื่อนที่โดยฉับพลัน
2. ผู้เดินเท้าอาจเดินออกมาทางข้างหลังรถโดยสาร
3. รถโดยสารอาจเสียอยู่
4. ไม่ต้องระวัง เนื่องจากเป็นถนนฝั่งตรงข้าม
127. ดังรูปในกรณีที่รถสีน้ำตาลมาจากทางหลักและรถสีน้ำเงินออกมาจากซอยซึ่งเป็นทางรอง รถคันใดต้องหยุดให้ทาง
1. รถคันสีน้ำตาล
2. รถคันสีน้ำเงิน
3. รถคันใดก็ได้
4. รถคันที่มีความเร็วต่ำกว่า
128. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการแซง
1. แซงบริเวณเขตห้ามแซงด้วยความระมัดระวัง
2. ไม่ควรแซงในทางที่มีทัศนวิสัยไม่ดี
3. ควรประเมินเวลาที่ใช้ในการแซงให้ถูกต้อง
4. แซงในขณะที่เห็นว่าปลอดภัยแล้วเท่านั้น
129. เมื่อท่านเห็นสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองในขณะที่ท่านกำลังจะขับขี่ผ่านทางแยกในเวลาเช้าตรู่ที่ไม่มีการจราจรอยู่ในบริเวณรอบๆ ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
2. รถคันสีน้ำเงิน
3. รถคันใดก็ได้
4. รถคันที่มีความเร็วต่ำกว่า
128. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการแซง
1. แซงบริเวณเขตห้ามแซงด้วยความระมัดระวัง
2. ไม่ควรแซงในทางที่มีทัศนวิสัยไม่ดี
3. ควรประเมินเวลาที่ใช้ในการแซงให้ถูกต้อง
4. แซงในขณะที่เห็นว่าปลอดภัยแล้วเท่านั้น
129. เมื่อท่านเห็นสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองในขณะที่ท่านกำลังจะขับขี่ผ่านทางแยกในเวลาเช้าตรู่ที่ไม่มีการจราจรอยู่ในบริเวณรอบๆ ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
2. ขับรถผ่านทางแยกไปโดยเร็ว เพื่อไม่ให้รถคันหลังเสียเวลา
3. รอจนกว่ารถคันข้างหลังของท่านจะให้สัญญาณแตร แล้วจึงออกรถ
4. ปฏิบัติอย่างไรก็ได้ แล้วแต่ผู้ขับขี่
131. จากรูป ผู้ขับขี่รถคันสีแดงควรปฏิบัติอย่างไร
1. รถจักรยานยนต์
2. รถคันสีน้ำเงิน
3. รถคันสีเขียว
4. ไม่จำเป็นต้องระวังรถคันใดเลย
133. ข้อใดเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักการขับรถอย่างปลอดภัย
1. ตรวจความพร้อมของรถยนต์ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง
2. ไม่จำเป็นให้สัญญาณไฟเลี้ยวในการเปลี่ยนช่องจราจร
3. ในการกลับรถไม่จำเป็นต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยว
4. ในการขับรถตรงผ่านทางแยกควรให้สัญญาณไฟกะพริบฉุกเฉิน
134. หลักการขับรถเข้าโค้งที่ถูกต้องควรปฏิบัติเช่นไร
1. เพิ่มความเร็วก่อนเข้าโค้ง ลดความเร็วขณะออกจากโค้ง
2. ลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง เพิ่มความเร็วขณะออกจากโค้ง
3. ลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง ลดความเร็วขณะออกจากโค้ง
4. เพิ่มความเร็วก่อนเข้าโค้ง เพิ่มความเร็วขณะออกจากโค้ง
135. เพื่อความปลอดภัยเมื่อออกรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ประมาณ 3-4 เมตร ควรทดสอบอะไรเป็นอันดับแรก
1. ทดสอบไฟสูง
2. ทดสอบไฟเลี้ยว
3. ทดสอบสัญญาณแตร
4. ทดสอบระบบเบรก
136. ข้อควรปฏิบัติขณะขับรถขณะฝนตกคือข้อใด
1. เปิดไฟหรี่
2. ขับรถช้า ๆ โดยไม่ต้องเปิดไฟ
3. เปิดไฟส่องสว่าง
4. บีบแตรแล้วขับให้เร็วเพื่อป้องกันรถคันหลังชนท้าย
137. ถ้าขณะขับรถเกิดยางแตกหรือยางระเบิดควรปฏิบัติเช่นไร
1. เหยียบคลัตช์ให้เร็วแล้วตามด้วยเบรก
2. เหยียบเบรกโดยเร็ว
3. จับพวงมาลัยให้มั่น แล้วค่อย ๆ เบรกและนำรถเข้าข้างทาง
4. เหยียบคลัตช์อย่างเดียว
138. ในสภาพถนนปกติ รถพร้อม คนพร้อม ขับรถตามรถคันหน้าต้องเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเท่าใด จึงจะปลอดภัยเมื่อรถคันหน้าหยุด
1. ห่างพอสมควรและสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัย
2. 3 เมตร
3. 5 เมตร
4. หนึ่งช่วงรถ
139. ขณะขับรถหากเกิดคันเร่งค้างควรทำอย่างไร
1. เปิดไฟฉุกเฉิน
2. ตั้งสติ ใช้ปลายเท้างัดคันเร่งขึ้นมา
3. ดึงเบรกมือ
4. ย้ำคันเร่งหลาย ๆ ครั้ง
140. ข้อใดคือการใช้ไฟฉุกเฉินที่ถูกต้อง
1. ฝนตก
2. ขับผ่านสี่แยก
3. รถเสียบนทางด่วน
4. บริเวณที่มีหมอกลงจัด
141. การใช้เกียร์เพื่อขึ้นและลงเขาข้อใดถูก
1. ขึ้นและลงใช้เกียร์ต่ำ
2. ขึ้นใช้เกียร์ต่ำและลงใช้เกียร์สูง
3. ขึ้นใช้เกียร์ต่ำและลงใช้เกียร์ว่าง
4. ขึ้นและลงใช้เกียร์สูง
142. อะไรไม่ใช่เป้าหมายในการขับรถอย่างปลอดภัย
1. ไม่ขับรถไปชนคันอื่น
2. ขับให้ถึงที่หมายเร็วที่สุด
3. ไม่เป็นเหตุให้รถคันอื่นชนกัน
4. ป้องกันไม่ให้รถคันอื่นมาชนเรา
143. เหตุใดจึงห้ามเปิดไฟสูงขณะที่ขับรถตามคันหน้าหรือรถที่วิ่งสวนทางมา
1. เพราะจะทำให้ผู้ขับรถคันหน้าและรถที่วิ่งสวนทางมามองทางไม่ชัดเจน
2. จะทำให้ผู้ขับรถคันหน้าหลับใน
3. จะทำให้เรามองทางข้างหน้าไม่ชัดเจน
4. จะทำให้รถที่วิ่งสวนทางมาหลับใน
144. การขับรถทางไกลเมื่อรู้สึกว่าตนเองง่วงควรปฏิบัติอย่างไร
1. วิ่งแล้วเบรกบ่อย ๆ เพื่อให้หายง่วง
2. ขับรถหวาดเสียวเพื่อให้ระบบประสาทตื่นตัว
3. หยุดพัก นอน หรือยืดเส้นยืดสายตามจุดพัก หรือปั๊มน้ำมัน
4. เร่งเครื่องเพื่อให้ถึงจุดหมายโดยเร็ว
145. ข้อใดไม่ใช่วิธีการขับรถที่ปลอดภัยในขณะที่ฝนตก
1. เปิดไปฉุกเฉินตลอดเวลาที่ฝนตก
2. ทิ้งช่วงห่างจากรถคันหน้า เผื่อไว้มาก ๆ
3. เปิดไฟหน้า
4. ใช้อัตราความเร็วที่ปลอดภัย
146. ในการข้ามทางรถไฟรางคู่ที่ไม่มีเครื่องกั้นเมื่อรถไฟผ่านไปแล้วผู้ขับรถควรระวังสิ่งใดต่อไปนี้
1. รถที่จะข้ามมาจากฝั่งตรงข้าม
2. รถไฟที่อาจจะสวนทางมาอีกทางหนึ่ง
3. คนที่จะเดินข้ามทางรถไฟ
4. รถที่หยุดรอด้านหลัง
147. ในการขับรถข้ามทางรถไฟที่ไม่มีเครื่องกั้นเมื่อคันด้านหน้าขับข้ามทางรถไฟไปแล้วท่านควรปฏิบัติอย่างไร
ก. ก่อนข้ามทางรถไฟต้องตรวจสอบความปลอดภัยอีกครั้ง
ข. ขับตามคันด้านหน้าไปได้เลย
ค. หยุดรอเจ้าหน้าที่ให้สัญญาณ
ง. รอสัญญาณไฟเขียว
148. เมื่อท่านขับรถที่มีน้ำหนักบรรทุกมาก ข้อใดถูกต้องมากที่สุด
1. ประสิทธิภาพของเบรกจะน้อยลง เบรกยาวขึ้น
2. ระบบกันสะเทือนจะนุ่มนวลมากขึ้น
3. ควันไอเสียจะมากขึ้น
4. เครื่องยนต์ทำงานเต็มประสิทธิภาพ
149. เมื่อท่านขับรถที่บรรทุกสิ่งของที่มีความสูงจะมีผลอย่างไร
1. แรงหนีศูนย์ของรถและสิ่งของจะน้อยลง
2. จุดศูนย์ถ่วงจะสูงขึ้นทำให้พลิกคว่ำได้ง่าย
3. แรงเหวี่ยงของรถจะน้อยลงเนื่องจากน้ำหนักบรรทุก
4. ระยะเบรกจะสั้นลง
150. สิ่งใดที่ไม่มีผลต่อระยะการเบรกรถ
1. บริษัทของผู้ผลิตยาง
2. ความเหนื่อยล้า
3. สภาพถนนที่เปียก
4. น้ำหนักบรรทุก
151. ข้อใดถูกต้องที่สุดในการควบคุมความเร็วของรถ
1. การชะลอรถควรใช้เบรกเท่านั้น
2. ในการขับรถควรใช้คันเร่งควบคุมในการเร่งและชะลอรถให้มากที่สุด
3. การใช้เกียร์ช่วยลดความเร็วให้ใช้เฉพาะทางลงลาดชันเท่านั้น
4. ควรใช้เบรกมือร่วมกับเบรกเท้าเพื่อช่วยลดการสึกหรอเบรกเท้า
152. ข้อใดปฏิบัติไม่ถูกต้องเมื่อรถของท่านจอดเสียกลางถนนหลวง
1. ตั้งสัญลักษณ์แสดงว่ามีรถจอดเสียในระยะ 150 เมตร
2. เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินพร้อมไฟหน้ารถ
3. ยืนโบกด้านท้ายรถเพื่อส่งสัญญาณกันรถชนท้ายรถเรา
4. เปิดฝากระโปรงด้านหน้าและท้ายรถ เพื่อส่งสัญญาณ
153. ก่อนขับรถ ผู้ขับขี่ที่ดีควรเตรียมความพร้อมของตนเองอย่างไร
1. พักผ่อนให้เพียงพอ
2. ดื่มเหล้า
3. กินยาบ้า
4. เที่ยวดึก
154. ข้อใดเป็นการเตรียมความพร้อมของรถก่อนขับรถ
1. ตรวจสภาพอากาศ
2. ต่อใบอนุญาตขับรถ
3. ดูหนังสือแผนที่ทางหลวงแผ่นดิน
4. ตรวจแรงดันลมยาง เบรก น้ำมันหล่อลื่น
155. เมื่อเกิดรถเสีย ควรปฏิบัติอย่างไร
1. เปิดไฟฉุกเฉิน, นำรถจอดเข้าข้างทาง
2. จอดรถทิ้งไว้กลางถนน
3. นำกิ่งไม้วางไว้ท้ายรถ
4. ก่อกองไฟข้างทางหากเป็นกลางคืน
156. สัญญาณไฟเตือนบนแผงหน้าปัดรถสีใด ที่ไม่ควรปรากฏขณะขับรถ
1. สีเขียว
2. สีแดง
3. สีเหลือง
4. สีฟ้า
157. การจับพวงมาลัยนิ้วมือควรอยู่ในลักษณะใด
1. นิ้วมือทั้งห้า จับพวงมาลัยให้กระชับ สามารถหมุนได้คล่องตัว
2. นิ้วมือทั้งห้า กำพวงมาลัยให้แน่นที่สุด
3. นิ้วมือทั้งห้าแตะที่พวงมาลัย สามารถหมุนพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว
4. ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับพวงมาลัยเพียงสองนิ้ว
158. เมื่อผู้ขับขี่ขับรถเสียหลักบนถนนเปียกลื่น ควรปฏิบัติอย่างไร
1. ถอนคันเร่ง เหยียบเบรกเพื่อใช่เกียร์ต่ำ
2. เหยียบเบรกทันที แล้วค่อย ๆ ออกตัวเร่งความเร็วใหม่
3. ตั้งสติให้มั่น จับพวงมาลัยให้ดี เร่งความเร็วหนีให้พ้นไป
4. ถอนคันเร่ง จับพวงมาลัยให้มั่นประคองรถต่อไป
159. ขณะขับรถ ถ้ากระจกบังลมหน้ารถแตกร้าว ควรปฏิบัติอย่างไร
1. ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน ลดความเร็ว จอดรถข้างทาง
2. ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน และขับรถต่อไป
3. ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน และหยุดรถทันที
4. ตั้งสติ จอดรถข้างทาง
160. ขณะฝนตกใหม่ ๆ รถมักลื่นไถล เพราะเหตุใด
1. น้ำฝนจะชะล้างถนนให้สะอาด
2. น้ำฝนจะกลายเป็นฟิล์มรองรับระหว่างยางกับพื้นถนน
3. ฝนตกทำให้ถนนชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อ
4. ถนนคอนกรีตดูดซับน้ำฝนได้อย่างดี
161. ข้อใดไม่ควรปฏิบัติขณะขับรถเมื่อฝนตกหนัก
1. ใช้ความเร็วไม่เกิน 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
2. เบรกรถอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
3. เปิดไฟหน้ารถในขณะขับรถ
4. ลดความเร็วลงและเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น
162. เพื่อความปลอดภัยในการขับรถช่วงฤดูฝน ควรตรวจสอบอุปกรณ์ส่วนควบสิ่งใดของรถก่อนเป็นลำดับแรก
1. ที่ปัดน้ำฝน
2. น้ำในหม้อน้ำ
3. น้ำกลั่นแบตเตอรี่
4. ตรวจเช็คประตูหน้าต่างรถ
163. ในขณะขับรถลุยน้ำ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
1. ขับรถด้วยความเร็ว
2. เปิดไฟฉุกเฉิน
3. เปิดไฟหน้ารถ
4. เร่งเครื่องยนต์ให้มากกว่าปกติเล็กน้อย และควบคุมเครื่องยนต์ไม่ให้ดับ
164. หลังจากขับรถลุยน้ำ ผ้าเบรกเปียกมีวิธีแก้ไขให้แห้งได้อย่างไร
1. เหยียบเบรกแรง ๆ
2. ขับรถให้เร็ว ๆ
3. ขับรถช้า ๆ เหยียบเบรกเบา ๆ แล้วปล่อยหลายๆ ครั้ง
4. จอดรถเข้าเกียร์ว่างและเร่งเครื่องยนต์ไว้สัก 10 นาที
165. เหตุใดขณะขับรถลุยน้ำจึงต้องเลี้ยงคลัตช์และเร่งเครื่องยนต์มากกว่าปกติเล็กน้อย
1. เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ดับ
2. เพื่อให้รถมีความเร็วมากขึ้น
3. เพื่อให้เครื่องยนต์ร้อน
4. เพื่อให้ความร้อนของเครื่องยนต์สูงกว่าปกติ
166. ข้อใดเปิดไฟหน้ารถไม่ถูกต้อง
1. เมื่อฝนตกหนัก
2. เมื่อต้องเร่งรีบไปทำงาน
3. เมื่อมีควันไฟปกคลุมถนน
4. เมื่อไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าในระยะต่ำกว่า 150 เมตร
167. การขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วม ควรปฏิบัติอย่างไร
1. ขับช้า ๆ ตามหลังรถคันหน้าในระยะห่างพอสมควร
2. ห้ามใช้เบรกอย่างเด็ดขาด
3. พยายามขับให้จี้ติดท้ายรถคันหน้าตลอดเวลา
4. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดเวลา
168. เพื่อความปลอดภัยก่อนขับรถ ผู้ขับขี่ควรเตรียมความพร้อมอย่างไร
1. รับประทานเครื่องดื่มกระตุ้นประสาทชนิดเข้มข้น
2. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
3. ต่อทะเบียนรถให้เรียบร้อย
4. เติมน้ำมันให้เต็มถัง
169. ข้อใดเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุด
1. ถนน
2. ผู้ขับขี่รถ
3. สัญญาณไฟจราจร
4. ไฟส่องถนนบริเวณทางร่วมทางแยก
170. พฤติกรรมการขับรถข้อใดถือว่าไม่ปลอดภัย
1. นางสมศรีขับรถปฏิบัติตามความพอใจของตัวเอง
2. นายสมชายขับรถจักรยานยนต์สวมรองเท้าหุ้มส้น
3. นางจิตราขับรถในเขตกรุงเทพฯ ใช้ความเร็วเพียง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
4. นายทองใบขับรถนอกเขตเทศบาลใช้ความเร็วเพียง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
171. ก่อนออกรถจากไหล่ทางด้านซ้าย ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไรให้ปลอดภัยมากที่สุด
1. มองกระจกมองข้างด้านขวา
2. เปิดไฟเลี้ยวซ้าย หันศีรษะไปด้านซ้าย
3. มองกระจกมองข้างด้านขวา เปิดไฟเลี้ยวขวา พร้อมกับหันศีรษะมองข้ามไหล่ขวาไป
ทางด้านหลังก่อนออกรถ
4. มองกระจกมองหลัง
172. ภายหลังออกรถไปประมาณ 3 ถึง 4 เมตร ควรทดสอบระบบใด
1. เบรก
2. ปรับกระจกมองหลัง
3. ปรับกระจกมองข้าง
4. ไฟเลี้ยว
173. การขับรถขึ้นทางลาดชัน ควรใช้เกียร์อย่างไร
1. ใช้เกียร์ต่ำแต่เมื่อใกล้ถึงยอดเขาให้เปลี่ยนเป็นเกียร์สูง
2. ใช้เกียร์สูงและลดความเร็วลง
3. ใช้เกียร์ต่ำและขับด้วยความระมัดระวัง
4. ใช้เกียร์ 4 ขึ้นไปขณะขึ้นทางลาดชัน
174. ในขณะที่ขับรถอยู่ มีกลิ่นเหม็นไหม้ แอร์เริ่มไม่เย็น เครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น ควรปฏิบัติอย่างไร
1. จอดรถในที่ปลอดภัยแล้ว ตรวจเช็กรถในเบื้องต้น
2. ขับต่อไปเรื่อย ๆ
3. ลดความเร็วลงแล้วขับต่อไป
4. หยุดรถทันทีกลางถนนห้ามเคลื่อนย้าย
175. ขณะขับรถเครื่องยนต์เกิดความร้อนสูง ควรปฏิบัติอย่างไร
1. หยุดรถที่ปลอดภัย เอาน้ำแข็งมาแช่เครื่องยนต์
2. หยุดรถที่ปลอดภัย แล้วปล่อยให้เครื่องเย็นก่อน
3. หยุดรถที่ปลอดภัย แล้วเปิดฝาหม้อน้ำ เติมน้ำทันที
4. หยุดรถที่ปลอดภัย แล้วเอาน้ำมาราดเครื่องยนต์
176. ในการขับรถทางไกล ผู้ขับขี่ควรเตรียมความพร้อมของร่างกายอย่างไร
1. พักผ่อนให้เพียงพอ
2. รับประทานอาหารเพิ่มเป็น 2 เท่า ของวันปกติ
3. ดื่มเครื่องดื่มชูกำลังให้มาก ๆ
4. ใช้ยากระตุ้นประสาท (ยาบ้า)
177. การขับรถในทางลักษณะใด ที่ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟเลี้ยว
1. ทางเลี้ยวซ้ายเข้าซอย
2. ทางเลี้ยวซ้ายออกจากซอย
3. ทางบังคับเลี้ยว
4. ทางกลับรถ
178. การหมุนพวงมาลัยรถ ขณะจอดรถอยู่กับที่จะมีผลอย่างไร
1. ดอกยางสึกเร็วกว่าปกติ
2. สิ้นเปลืองน้ำมันเพาเวอร์
3. สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
4. ทำให้หมุนพวงมาลัยง่ายขึ้น
179. การหยุดรถอย่างกะทันหัน (รถไม่มีเบรก ABS) ควรปฏิบัติอย่างไร
1. เหยียบเบรกแรง ๆ โดยไม่ต้องถอนเบรก
2. เหยียบและปล่อยเบรกสลับกัน (ย้ำเบรกซ้ำ ๆ)
3. เหยียบเบรกและดึงเบรกมือพร้อมกัน
4. เหยียบเบรก และดับเครื่องยนต์พร้อมกัน
180. รถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงแล้วเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน (รถไม่มีเบรก ABS) จะมีผลอย่างไร
1. ล้อจะล็อก และรถจะไม่สามารถควบคุมได้
2. รถจะค่อย ๆ ชะลอความเร็วลง
3. จะหยุดรถได้ตามระยะที่กำหนด
4. ล้อจะล็อก และรถจะหยุดทันที
181. ก่อนขับรถเข้าโค้งหรือมุมเลี้ยว ควรใช้ความเร็วอย่างไร
1. ลดความเร็วลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
2. ควบคุมความเร็วของรถให้เหมาะสมกับโค้งหรือมุมเลี้ยว
3. ใช้ความเร็วคงที่
4. เพิ่มความเร็วให้มากขึ้นกว่าเดิม
182. ขณะขับรถยางรถแตก จะมีอาการอย่างไร
1. รถหยุดกะทันหัน
2. พวงมาลัยจะหนัก รถจะเอียง
3. พวงมาลัยรถจะไร้น้ำหนัก
4. เบรกจะไม่ทำงาน
183. ยางที่หมดอายุจะมีลักษณะอย่างไร
1. มีรอยแตกร้าวตามแนวขอบยาง
2. ยางจะมีสีดำสนิท
3. ยางจะมีสีขาวนวล
4. เวลาเปียกน้ำจะไม่เกาะยาง
184. ในขณะขับรถ ยางรถแตกหรือระเบิด ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
1. คุมสติ บังคับพวงมาลัย ลดความเร็วลงและไม่ควรเหยียบเบรกกะทันหัน
2. รีบเหยียบเบรกให้เร็วที่สุด
3. ปลดเกียร์ว่างแล้วรีบเหยียบเบรก
4. หมุนพวงมาลัยอย่างรวดเร็วเพื่อหลบเข้าข้างทาง
185. ในขณะที่กำลังขับรถ ถ้าฝากระโปรงหน้ารถเปิด ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
1. เบรกกะทันหัน
2. หักเลี้ยวรถเข้าข้างทางทันที เพื่อปิดฝากระโปรงให้เรียบร้อย
3. ลดความเร็วแล้วจอดข้างทาง เพื่อปิดฝากระโปรงให้เรียบร้อย
4. เหยียบคันเร่งให้มิดเพื่อฝากระโปรงจะได้กระแทกปิด
186. ข้อใดเป็นวิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อรถเกิดไฟลัดวงจร
1. ใช้ทรายสาดใส่
2. วิ่งหาน้ำมันมาราด
3. หาผ้าหนา ๆ ปิดหรือดับไฟ
4. ตัดกระแสไฟ หรือหาทางงัดขั้วแบตเตอรี่ออกก่อน
187. ลมยางล้อหน้าอ่อน จะมีผลต่อการขับขี่อย่างไร
1. เวลานั่งรู้สึกเหมือนรถจะกระตุกอยู่ตลอดเวลา
2. ยางล้อหน้าสึกหรอ พวงมาลัยหนัก และรถกินน้ำมันมากขึ้น
3. ประหยัดน้ำมันแต่เปลืองยาง
4. ประหยัดยางแต่เปลืองน้ำมัน
188. การปรับระดับที่นั่งคนขับห่างเกินไป จะมีผลอย่างไร
1. ทำให้เข้าเกียร์ได้ง่าย
2. ทำให้เบรกรถสะดวก
3. ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นชัดเจนดีมาก สามารถตัดสินใจได้ดี
4. บังคับพวงมาลัยลำบาก ใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่สะดวก
189. การตรวจสอบว่าเข็มขัดนิรภัยยังใช้งานได้ดีหรือไม่ ควรตรวจสอบอย่างไร
1. ต้องมีสีเข้ม ๆ
2. ดูว่าเข็มขัดมียี่ห้อหรือไม่
3. ดูว่าเป็นของใหม่หรือไม่
4. กระตุกดึงสายเข็มขัดอย่างเร็ว แล้วสายเข็มขัดต้องล็อก
190. ข้อใดไม่ใช่การมองที่ถูกวิธีในขณะขับรถ
1. การมองถึงสภาพของถนนที่แตกต่างกัน
2. การมองการเคลื่อนไหวของรถและคน
3. มองไปยังสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขับรถ
4. การมองเห็นฝูงสัตว์เลี้ยงกำลังข้ามถนน
191. การเข้าเกียร์ถอยหลังขณะรถยังไม่หยุดนิ่งมีผลเสียอย่างไร
1. เข้าเกียร์ยากและทำให้เกียร์เสียเร็วกว่าปกติ
2. ทำให้น้ำมันเกียร์หมดเร็ว
3. เครื่องยนต์กินน้ำมันเครื่อง
4. ไม่มีผลต่อเกียร์
192. การขับรถถอยหลังควรใช้ความเร็วระดับใด
1. ใช้ความเร็วตามสภาพของรถ
2. ถอยเหมือนกับเดินหน้า
3. ถอยช้า ๆ แล้วใช้ความระมัดระวัง
4. ถอยแบบไหนก็ได้
193. การตรวจลมยางควรตรวจเมื่อใด
1. ตรวจเมื่อไรก็ได้
2. ขณะที่บรรทุกของหนัก
3. ขณะวิ่งใช้งานแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง
4. ขณะที่ยางยังเย็นอยู่
194. ข้อใดเป็นการสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ถูกต้อง
1. ขึ้นเบรกมือ-ปลดเกียร์ว่าง -ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า-สตาร์ทเครื่องยนต์
2. ปลดเกียร์ว่าง-ขึ้นเบรกมือ-สตาร์ทเครื่องยนต์
3. เหยียบคลัตช์-สตาร์ทเครื่องยนต์
4. ปลดเบรกมือ-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า-สตาร์ทเครื่องยนต์
195. ข้อใดไม่ควรปฏิบัติขณะขับรถเมื่อฝนตกหนัก
1. ลดความเร็วลงและขับด้วยความระมัดระวัง
2. ใช้เกียร์ต่ำกว่าปกติ 1 เกียร์
3. เบรกรถอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
4. เปิดไฟหน้ารถ
196. หากเกิดฝนตกหนักจนมองเห็นทางไม่ชัดเจน ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
1. จอดรถบริเวณที่ปลอดภัย เปิดไฟหน้ารถและเปิดไฟฉุกเฉิน
2. เปิดไฟหน้าเร่งความเร็วผ่านบริเวณที่ฝนตกหนัก
3. เร่งความเร็วให้ผ่านบริเวณที่ฝนตกโดยเร็ว
4. จอดรถทันที
197. ข้อใดที่ทำให้การหยุดรถต้องใช้ระยะทางมากขึ้นจึงสามารถหยุดรถได้
1. ความรวดเร็วในการตัดสินใจ
2. ความเร็วในการเหยียบเบรก
3. น้ำหนักบรรทุกเพิ่มมากขึ้น
4. น้ำหนักบรรทุกลดน้อยลง
198. ข้อใดไม่ควรใช้เบรกมือ
1. ติดไฟแดง
2. ขับรถลงทางลาดชัน
3. จอดรถ
4. หยุดบนทางลาดชัน
199. การจับพวงมาลัยขณะขับรถทางตรง มือซ้ายและขวาของผู้ขับขี่ ควรอยู่ในตำแหน่งลักษณะใดของหน้าปัดนาฬิกา
1. ตำแหน่งเลข 2 และเลข 10
2. ตำแหน่งเลข 3 และเลข 10
3. ตำแหน่งเลข 4 และเลข 10
4. ตำแหน่งเลข 6 และเลข 10
200. ข้อใดไม่มีผลให้ระยะการหยุดรถ (ระยะเบรก) ยาวขึ้น
1. สภาพพื้นผิวถนน
2. น้ำหนักบรรทุก
3. น้ำมันหล่อลื่น
4. ความเร็วของรถ
201. ผู้ขับขี่ควรใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อใด
1. เมื่อรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ
2. เมื่อขับรถผ่านทางร่วมทางแยก
3. เมื่อจะกลับรถหรือเปลี่ยนช่องทางเดินรถ
4. เมื่อมีหมอก ฝน ฝุ่น ควัน ในทางเดินรถ
202. การฝึกขับรถแบบ “ขับไปพูดไป” มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร
1. เพื่อป้องกันไม่ให้ง่วงซึม
2. ฝึกสมองให้เกิดสมาธิและสมองทำงานสัมพันธ์กับตา
3. เพื่อให้เหมือนทฤษฎีฝรั่ง
4. เหมือนคนบ้าขับรถ
203. เมื่อเราเตรียมขับรถแซงรถคันหน้า เราควรปฏิบัติเช่นไรเป็นอันดับแรก
1. ให้สัญญาณไฟก่อน
2. ให้ดูกระจกก่อน
3. รีบเร่งเครื่องแล้วแซงได้เลย
4. เปิดไฟฉุกเฉินแล้วแซงได้เลย
204. ข้อควรปฏิบัติขณะขับรถฝ่าหมอกควันหรือฝนคือข้อใด
1. เปิดไฟหรี่
2. ขับรถช้า ๆ โดยไม่ต้องเปิดไฟ
3. เปิดไฟส่องสว่าง
4. บีบแตรแล้วขับให้เร็วเพื่อป้องกันรถคันหลังชนท้าย
205. หลังจากขับรถลุยน้ำ เมื่อเราขึ้นที่แห้งแล้วควรปฏิบัติเช่นไรเป็นอันดับแรก
1. ทดสอบเบรกหลาย ๆ ครั้ง
2. ทดสอบไฟเลี้ยวหลาย ๆ ครั้ง
3. ทดสอบสัญญาณแตร
4. ทดสอบไฟสูงต่ำ
206. ถ้าขณะขับรถเกิดยางแตกหรือยางระเบิดควรปฏิบัติเช่นไร
1. เหยียบคลัตช์อย่างเดียว
2. เหยียบเบรกโดยเร็ว
3. เหยียบคลัตช์ให้เร็วแล้วตามด้วยเบรก
4. ถือพวงมาลัยให้มั่น แล้วค่อย ๆ เบรกและนำรถเข้าข้างทาง
207. ในสภาพถนนปกติ รถพร้อม คนพร้อม ขับรถตามรถคันหน้าต้องเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเท่าใดจึงจะปลอดภัยเมื่อรถคันหน้าหยุด
1. 3 เมตร
2. 5 เมตร
3. หนึ่งช่องรถ
4. ห่างพอสมควรและสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัย
208. ข้อใดผิด
1. ห้ามพูดโทรศัพท์ขณะขับรถ
2. ห้ามหยุดรถให้คนข้ามทาง
3. ห้ามหยุดหรือจอดรถคุยกันกลางถนน
4. ห้ามแซงซ้ายในที่ห้ามแซงซ้าย
209. ท่านควรหมุนพวงมาลัยลักษณะใดในการเลี้ยงรถ
1. ปั่นพวงมาลัยและตีกลับเอง
2. ใช้วิธีคลึงไปคลึงมาบนพวงมาลัย
3. ใช้ระบบดึง-ดัน
4. หมุนระบบสอดสร้อยมาลา
210. การใช้เกียร์ขึ้นและลงเขาข้อใดถูก
1. ขึ้นและลงใช้เกียร์ต่ำ
2. ขึ้นใช้เกียร์ต่ำและลงใช้เกียร์สูง
3. ขึ้นใช้เกียร์ต่ำและลงใช้เกียร์ว่าง
4. ขึ้นและลงใช้เกียร์สูง
211. เมื่อเห็นผู้ขับขี่เกิดอุบัติเหตุควรปฏิบัติเช่นไร
1. ขับรถตามปกติ
2. ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเท่าที่จำเป็น
3. รีบขับรถหนี
4. ขับรถช้า ๆ ชะลอดูเหตุการณ์
212. เหตุใดจึงห้ามเปิดไฟสูงขณะที่ขับรถตามคันหน้าหรือรถที่วิ่งสวนทางมา
1. เพราะจะทำให้ผู้ขับรถคันหน้าและรถที่วิ่งสวนทางมามองทางไม่ชัดเจน
2. จะทำให้ผู้ขับรถคันหน้าหลับใน
3. จะทำให้เรามองทางข้างหน้าไม่ชัดเจน
4. จะทำให้รถที่วิ่งสวนทางมาหลับใน
213. การขับรถทางไกลเมื่อรู้สึกว่าตนเองง่วงควรปฏิบัติอย่างไร
1. เร่งเครื่องเพื่อให้ถึงจุดหมายโดยเร็ว
2. ขับรถหวาดเสียวเพื่อให้ระบบประสาทตื่นตัว
3. วิ่งแล้วเบรกบ่อย ๆ เพื่อให้หายง่วง
4. หยุดพัก นอน หรือยืดเส้นยืดสายตามจุดพัก หรือปั๊มน้ำมัน
214. ข้อใดไม่ใช่วิธีการขับรถที่ปลอดภัยในขณะที่ฝนตก
1. เปิดไปฉุกเฉินตลอดเวลาที่ฝนตก
2. ทิ้งช่วงห่างจากรถคันหน้า เผื่อไว้มาก ๆ
3. เปิดไฟหน้า
4. ใช้อัตราความเร็วที่ปลอดภัย
215. การฝึกขับรถแบบ “ขับไปพูดไป” มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร
1. เพื่อให้เหมือนทฤษฎีฝรั่ง
2. เพื่อป้องกันไม่ให้ง่วงซึม
3. ฝึกสมองให้เกิดสมาธิและสมองทำงานสัมพันธ์กับตา
4. เหมือนคนบ้าขับรถ
216. เมื่อเราเตรียมขับรถแซงรถคันหน้า เราควรปฏิบัติเช่นไรเป็นอันดับแรก
1. เปิดไฟฉุกเฉินแล้วแซงได้เลย
2. ให้สัญญาณไฟก่อน
3. รีบเร่งเครื่องแล้วแซงได้เลย
4. ให้ดูกระจกก่อน
217. ข้อควรปฏิบัติขณะขับรถฝ่าหมอกควันหรือฝนคือข้อใด
1. เปิดไฟส่องสว่าง
2. ขับรถช้า ๆ โดยไม่ต้องเปิดไฟ
3. เปิดไฟหรี่
4. บีบแตรแล้วขับให้เร็วเพื่อป้องกันรถคันหลังชนท้าย
218. ในสภาพถนนปกติ รถพร้อม คนพร้อม ขับรถตามรถคันหน้าต้องเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเท่าใดจึงจะปลอดภัยเมื่อรถคันหน้าหยุด
1. หนึ่งช่องรถ
2. 3 เมตร
3. 5 เมตร
4. ห่างพอสมควรและสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัย
2. รถคันสีน้ำเงิน
3. รถคันสีเขียว
4. ไม่จำเป็นต้องระวังรถคันใดเลย
133. ข้อใดเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักการขับรถอย่างปลอดภัย
1. ตรวจความพร้อมของรถยนต์ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง
2. ไม่จำเป็นให้สัญญาณไฟเลี้ยวในการเปลี่ยนช่องจราจร
3. ในการกลับรถไม่จำเป็นต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยว
4. ในการขับรถตรงผ่านทางแยกควรให้สัญญาณไฟกะพริบฉุกเฉิน
134. หลักการขับรถเข้าโค้งที่ถูกต้องควรปฏิบัติเช่นไร
1. เพิ่มความเร็วก่อนเข้าโค้ง ลดความเร็วขณะออกจากโค้ง
2. ลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง เพิ่มความเร็วขณะออกจากโค้ง
3. ลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง ลดความเร็วขณะออกจากโค้ง
4. เพิ่มความเร็วก่อนเข้าโค้ง เพิ่มความเร็วขณะออกจากโค้ง
135. เพื่อความปลอดภัยเมื่อออกรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ประมาณ 3-4 เมตร ควรทดสอบอะไรเป็นอันดับแรก
1. ทดสอบไฟสูง
2. ทดสอบไฟเลี้ยว
3. ทดสอบสัญญาณแตร
4. ทดสอบระบบเบรก
136. ข้อควรปฏิบัติขณะขับรถขณะฝนตกคือข้อใด
1. เปิดไฟหรี่
2. ขับรถช้า ๆ โดยไม่ต้องเปิดไฟ
3. เปิดไฟส่องสว่าง
4. บีบแตรแล้วขับให้เร็วเพื่อป้องกันรถคันหลังชนท้าย
137. ถ้าขณะขับรถเกิดยางแตกหรือยางระเบิดควรปฏิบัติเช่นไร
1. เหยียบคลัตช์ให้เร็วแล้วตามด้วยเบรก
2. เหยียบเบรกโดยเร็ว
3. จับพวงมาลัยให้มั่น แล้วค่อย ๆ เบรกและนำรถเข้าข้างทาง
4. เหยียบคลัตช์อย่างเดียว
138. ในสภาพถนนปกติ รถพร้อม คนพร้อม ขับรถตามรถคันหน้าต้องเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเท่าใด จึงจะปลอดภัยเมื่อรถคันหน้าหยุด
1. ห่างพอสมควรและสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัย
2. 3 เมตร
3. 5 เมตร
4. หนึ่งช่วงรถ
139. ขณะขับรถหากเกิดคันเร่งค้างควรทำอย่างไร
1. เปิดไฟฉุกเฉิน
2. ตั้งสติ ใช้ปลายเท้างัดคันเร่งขึ้นมา
3. ดึงเบรกมือ
4. ย้ำคันเร่งหลาย ๆ ครั้ง
140. ข้อใดคือการใช้ไฟฉุกเฉินที่ถูกต้อง
1. ฝนตก
2. ขับผ่านสี่แยก
3. รถเสียบนทางด่วน
4. บริเวณที่มีหมอกลงจัด
141. การใช้เกียร์เพื่อขึ้นและลงเขาข้อใดถูก
1. ขึ้นและลงใช้เกียร์ต่ำ
2. ขึ้นใช้เกียร์ต่ำและลงใช้เกียร์สูง
3. ขึ้นใช้เกียร์ต่ำและลงใช้เกียร์ว่าง
4. ขึ้นและลงใช้เกียร์สูง
142. อะไรไม่ใช่เป้าหมายในการขับรถอย่างปลอดภัย
1. ไม่ขับรถไปชนคันอื่น
2. ขับให้ถึงที่หมายเร็วที่สุด
3. ไม่เป็นเหตุให้รถคันอื่นชนกัน
4. ป้องกันไม่ให้รถคันอื่นมาชนเรา
143. เหตุใดจึงห้ามเปิดไฟสูงขณะที่ขับรถตามคันหน้าหรือรถที่วิ่งสวนทางมา
1. เพราะจะทำให้ผู้ขับรถคันหน้าและรถที่วิ่งสวนทางมามองทางไม่ชัดเจน
2. จะทำให้ผู้ขับรถคันหน้าหลับใน
3. จะทำให้เรามองทางข้างหน้าไม่ชัดเจน
4. จะทำให้รถที่วิ่งสวนทางมาหลับใน
144. การขับรถทางไกลเมื่อรู้สึกว่าตนเองง่วงควรปฏิบัติอย่างไร
1. วิ่งแล้วเบรกบ่อย ๆ เพื่อให้หายง่วง
2. ขับรถหวาดเสียวเพื่อให้ระบบประสาทตื่นตัว
3. หยุดพัก นอน หรือยืดเส้นยืดสายตามจุดพัก หรือปั๊มน้ำมัน
4. เร่งเครื่องเพื่อให้ถึงจุดหมายโดยเร็ว
145. ข้อใดไม่ใช่วิธีการขับรถที่ปลอดภัยในขณะที่ฝนตก
1. เปิดไปฉุกเฉินตลอดเวลาที่ฝนตก
2. ทิ้งช่วงห่างจากรถคันหน้า เผื่อไว้มาก ๆ
3. เปิดไฟหน้า
4. ใช้อัตราความเร็วที่ปลอดภัย
146. ในการข้ามทางรถไฟรางคู่ที่ไม่มีเครื่องกั้นเมื่อรถไฟผ่านไปแล้วผู้ขับรถควรระวังสิ่งใดต่อไปนี้
1. รถที่จะข้ามมาจากฝั่งตรงข้าม
2. รถไฟที่อาจจะสวนทางมาอีกทางหนึ่ง
3. คนที่จะเดินข้ามทางรถไฟ
4. รถที่หยุดรอด้านหลัง
147. ในการขับรถข้ามทางรถไฟที่ไม่มีเครื่องกั้นเมื่อคันด้านหน้าขับข้ามทางรถไฟไปแล้วท่านควรปฏิบัติอย่างไร
ก. ก่อนข้ามทางรถไฟต้องตรวจสอบความปลอดภัยอีกครั้ง
ข. ขับตามคันด้านหน้าไปได้เลย
ค. หยุดรอเจ้าหน้าที่ให้สัญญาณ
ง. รอสัญญาณไฟเขียว
148. เมื่อท่านขับรถที่มีน้ำหนักบรรทุกมาก ข้อใดถูกต้องมากที่สุด
1. ประสิทธิภาพของเบรกจะน้อยลง เบรกยาวขึ้น
2. ระบบกันสะเทือนจะนุ่มนวลมากขึ้น
3. ควันไอเสียจะมากขึ้น
4. เครื่องยนต์ทำงานเต็มประสิทธิภาพ
149. เมื่อท่านขับรถที่บรรทุกสิ่งของที่มีความสูงจะมีผลอย่างไร
1. แรงหนีศูนย์ของรถและสิ่งของจะน้อยลง
2. จุดศูนย์ถ่วงจะสูงขึ้นทำให้พลิกคว่ำได้ง่าย
3. แรงเหวี่ยงของรถจะน้อยลงเนื่องจากน้ำหนักบรรทุก
4. ระยะเบรกจะสั้นลง
150. สิ่งใดที่ไม่มีผลต่อระยะการเบรกรถ
1. บริษัทของผู้ผลิตยาง
2. ความเหนื่อยล้า
3. สภาพถนนที่เปียก
4. น้ำหนักบรรทุก
151. ข้อใดถูกต้องที่สุดในการควบคุมความเร็วของรถ
1. การชะลอรถควรใช้เบรกเท่านั้น
2. ในการขับรถควรใช้คันเร่งควบคุมในการเร่งและชะลอรถให้มากที่สุด
3. การใช้เกียร์ช่วยลดความเร็วให้ใช้เฉพาะทางลงลาดชันเท่านั้น
4. ควรใช้เบรกมือร่วมกับเบรกเท้าเพื่อช่วยลดการสึกหรอเบรกเท้า
152. ข้อใดปฏิบัติไม่ถูกต้องเมื่อรถของท่านจอดเสียกลางถนนหลวง
1. ตั้งสัญลักษณ์แสดงว่ามีรถจอดเสียในระยะ 150 เมตร
2. เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินพร้อมไฟหน้ารถ
3. ยืนโบกด้านท้ายรถเพื่อส่งสัญญาณกันรถชนท้ายรถเรา
4. เปิดฝากระโปรงด้านหน้าและท้ายรถ เพื่อส่งสัญญาณ
153. ก่อนขับรถ ผู้ขับขี่ที่ดีควรเตรียมความพร้อมของตนเองอย่างไร
1. พักผ่อนให้เพียงพอ
2. ดื่มเหล้า
3. กินยาบ้า
4. เที่ยวดึก
154. ข้อใดเป็นการเตรียมความพร้อมของรถก่อนขับรถ
1. ตรวจสภาพอากาศ
2. ต่อใบอนุญาตขับรถ
3. ดูหนังสือแผนที่ทางหลวงแผ่นดิน
4. ตรวจแรงดันลมยาง เบรก น้ำมันหล่อลื่น
155. เมื่อเกิดรถเสีย ควรปฏิบัติอย่างไร
1. เปิดไฟฉุกเฉิน, นำรถจอดเข้าข้างทาง
2. จอดรถทิ้งไว้กลางถนน
3. นำกิ่งไม้วางไว้ท้ายรถ
4. ก่อกองไฟข้างทางหากเป็นกลางคืน
156. สัญญาณไฟเตือนบนแผงหน้าปัดรถสีใด ที่ไม่ควรปรากฏขณะขับรถ
1. สีเขียว
2. สีแดง
3. สีเหลือง
4. สีฟ้า
157. การจับพวงมาลัยนิ้วมือควรอยู่ในลักษณะใด
1. นิ้วมือทั้งห้า จับพวงมาลัยให้กระชับ สามารถหมุนได้คล่องตัว
2. นิ้วมือทั้งห้า กำพวงมาลัยให้แน่นที่สุด
3. นิ้วมือทั้งห้าแตะที่พวงมาลัย สามารถหมุนพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว
4. ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับพวงมาลัยเพียงสองนิ้ว
158. เมื่อผู้ขับขี่ขับรถเสียหลักบนถนนเปียกลื่น ควรปฏิบัติอย่างไร
1. ถอนคันเร่ง เหยียบเบรกเพื่อใช่เกียร์ต่ำ
2. เหยียบเบรกทันที แล้วค่อย ๆ ออกตัวเร่งความเร็วใหม่
3. ตั้งสติให้มั่น จับพวงมาลัยให้ดี เร่งความเร็วหนีให้พ้นไป
4. ถอนคันเร่ง จับพวงมาลัยให้มั่นประคองรถต่อไป
159. ขณะขับรถ ถ้ากระจกบังลมหน้ารถแตกร้าว ควรปฏิบัติอย่างไร
1. ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน ลดความเร็ว จอดรถข้างทาง
2. ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน และขับรถต่อไป
3. ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน และหยุดรถทันที
4. ตั้งสติ จอดรถข้างทาง
160. ขณะฝนตกใหม่ ๆ รถมักลื่นไถล เพราะเหตุใด
1. น้ำฝนจะชะล้างถนนให้สะอาด
2. น้ำฝนจะกลายเป็นฟิล์มรองรับระหว่างยางกับพื้นถนน
3. ฝนตกทำให้ถนนชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อ
4. ถนนคอนกรีตดูดซับน้ำฝนได้อย่างดี
161. ข้อใดไม่ควรปฏิบัติขณะขับรถเมื่อฝนตกหนัก
1. ใช้ความเร็วไม่เกิน 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
2. เบรกรถอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
3. เปิดไฟหน้ารถในขณะขับรถ
4. ลดความเร็วลงและเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น
162. เพื่อความปลอดภัยในการขับรถช่วงฤดูฝน ควรตรวจสอบอุปกรณ์ส่วนควบสิ่งใดของรถก่อนเป็นลำดับแรก
1. ที่ปัดน้ำฝน
2. น้ำในหม้อน้ำ
3. น้ำกลั่นแบตเตอรี่
4. ตรวจเช็คประตูหน้าต่างรถ
163. ในขณะขับรถลุยน้ำ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
1. ขับรถด้วยความเร็ว
2. เปิดไฟฉุกเฉิน
3. เปิดไฟหน้ารถ
4. เร่งเครื่องยนต์ให้มากกว่าปกติเล็กน้อย และควบคุมเครื่องยนต์ไม่ให้ดับ
164. หลังจากขับรถลุยน้ำ ผ้าเบรกเปียกมีวิธีแก้ไขให้แห้งได้อย่างไร
1. เหยียบเบรกแรง ๆ
2. ขับรถให้เร็ว ๆ
3. ขับรถช้า ๆ เหยียบเบรกเบา ๆ แล้วปล่อยหลายๆ ครั้ง
4. จอดรถเข้าเกียร์ว่างและเร่งเครื่องยนต์ไว้สัก 10 นาที
165. เหตุใดขณะขับรถลุยน้ำจึงต้องเลี้ยงคลัตช์และเร่งเครื่องยนต์มากกว่าปกติเล็กน้อย
1. เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ดับ
2. เพื่อให้รถมีความเร็วมากขึ้น
3. เพื่อให้เครื่องยนต์ร้อน
4. เพื่อให้ความร้อนของเครื่องยนต์สูงกว่าปกติ
166. ข้อใดเปิดไฟหน้ารถไม่ถูกต้อง
1. เมื่อฝนตกหนัก
2. เมื่อต้องเร่งรีบไปทำงาน
3. เมื่อมีควันไฟปกคลุมถนน
4. เมื่อไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าในระยะต่ำกว่า 150 เมตร
167. การขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วม ควรปฏิบัติอย่างไร
1. ขับช้า ๆ ตามหลังรถคันหน้าในระยะห่างพอสมควร
2. ห้ามใช้เบรกอย่างเด็ดขาด
3. พยายามขับให้จี้ติดท้ายรถคันหน้าตลอดเวลา
4. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดเวลา
168. เพื่อความปลอดภัยก่อนขับรถ ผู้ขับขี่ควรเตรียมความพร้อมอย่างไร
1. รับประทานเครื่องดื่มกระตุ้นประสาทชนิดเข้มข้น
2. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
3. ต่อทะเบียนรถให้เรียบร้อย
4. เติมน้ำมันให้เต็มถัง
169. ข้อใดเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุด
1. ถนน
2. ผู้ขับขี่รถ
3. สัญญาณไฟจราจร
4. ไฟส่องถนนบริเวณทางร่วมทางแยก
170. พฤติกรรมการขับรถข้อใดถือว่าไม่ปลอดภัย
1. นางสมศรีขับรถปฏิบัติตามความพอใจของตัวเอง
2. นายสมชายขับรถจักรยานยนต์สวมรองเท้าหุ้มส้น
3. นางจิตราขับรถในเขตกรุงเทพฯ ใช้ความเร็วเพียง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
4. นายทองใบขับรถนอกเขตเทศบาลใช้ความเร็วเพียง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
171. ก่อนออกรถจากไหล่ทางด้านซ้าย ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไรให้ปลอดภัยมากที่สุด
1. มองกระจกมองข้างด้านขวา
2. เปิดไฟเลี้ยวซ้าย หันศีรษะไปด้านซ้าย
3. มองกระจกมองข้างด้านขวา เปิดไฟเลี้ยวขวา พร้อมกับหันศีรษะมองข้ามไหล่ขวาไป
ทางด้านหลังก่อนออกรถ
4. มองกระจกมองหลัง
172. ภายหลังออกรถไปประมาณ 3 ถึง 4 เมตร ควรทดสอบระบบใด
1. เบรก
2. ปรับกระจกมองหลัง
3. ปรับกระจกมองข้าง
4. ไฟเลี้ยว
173. การขับรถขึ้นทางลาดชัน ควรใช้เกียร์อย่างไร
1. ใช้เกียร์ต่ำแต่เมื่อใกล้ถึงยอดเขาให้เปลี่ยนเป็นเกียร์สูง
2. ใช้เกียร์สูงและลดความเร็วลง
3. ใช้เกียร์ต่ำและขับด้วยความระมัดระวัง
4. ใช้เกียร์ 4 ขึ้นไปขณะขึ้นทางลาดชัน
174. ในขณะที่ขับรถอยู่ มีกลิ่นเหม็นไหม้ แอร์เริ่มไม่เย็น เครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น ควรปฏิบัติอย่างไร
1. จอดรถในที่ปลอดภัยแล้ว ตรวจเช็กรถในเบื้องต้น
2. ขับต่อไปเรื่อย ๆ
3. ลดความเร็วลงแล้วขับต่อไป
4. หยุดรถทันทีกลางถนนห้ามเคลื่อนย้าย
175. ขณะขับรถเครื่องยนต์เกิดความร้อนสูง ควรปฏิบัติอย่างไร
1. หยุดรถที่ปลอดภัย เอาน้ำแข็งมาแช่เครื่องยนต์
2. หยุดรถที่ปลอดภัย แล้วปล่อยให้เครื่องเย็นก่อน
3. หยุดรถที่ปลอดภัย แล้วเปิดฝาหม้อน้ำ เติมน้ำทันที
4. หยุดรถที่ปลอดภัย แล้วเอาน้ำมาราดเครื่องยนต์
176. ในการขับรถทางไกล ผู้ขับขี่ควรเตรียมความพร้อมของร่างกายอย่างไร
1. พักผ่อนให้เพียงพอ
2. รับประทานอาหารเพิ่มเป็น 2 เท่า ของวันปกติ
3. ดื่มเครื่องดื่มชูกำลังให้มาก ๆ
4. ใช้ยากระตุ้นประสาท (ยาบ้า)
177. การขับรถในทางลักษณะใด ที่ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟเลี้ยว
1. ทางเลี้ยวซ้ายเข้าซอย
2. ทางเลี้ยวซ้ายออกจากซอย
3. ทางบังคับเลี้ยว
4. ทางกลับรถ
178. การหมุนพวงมาลัยรถ ขณะจอดรถอยู่กับที่จะมีผลอย่างไร
1. ดอกยางสึกเร็วกว่าปกติ
2. สิ้นเปลืองน้ำมันเพาเวอร์
3. สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
4. ทำให้หมุนพวงมาลัยง่ายขึ้น
179. การหยุดรถอย่างกะทันหัน (รถไม่มีเบรก ABS) ควรปฏิบัติอย่างไร
1. เหยียบเบรกแรง ๆ โดยไม่ต้องถอนเบรก
2. เหยียบและปล่อยเบรกสลับกัน (ย้ำเบรกซ้ำ ๆ)
3. เหยียบเบรกและดึงเบรกมือพร้อมกัน
4. เหยียบเบรก และดับเครื่องยนต์พร้อมกัน
180. รถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงแล้วเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน (รถไม่มีเบรก ABS) จะมีผลอย่างไร
1. ล้อจะล็อก และรถจะไม่สามารถควบคุมได้
2. รถจะค่อย ๆ ชะลอความเร็วลง
3. จะหยุดรถได้ตามระยะที่กำหนด
4. ล้อจะล็อก และรถจะหยุดทันที
181. ก่อนขับรถเข้าโค้งหรือมุมเลี้ยว ควรใช้ความเร็วอย่างไร
1. ลดความเร็วลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
2. ควบคุมความเร็วของรถให้เหมาะสมกับโค้งหรือมุมเลี้ยว
3. ใช้ความเร็วคงที่
4. เพิ่มความเร็วให้มากขึ้นกว่าเดิม
182. ขณะขับรถยางรถแตก จะมีอาการอย่างไร
1. รถหยุดกะทันหัน
2. พวงมาลัยจะหนัก รถจะเอียง
3. พวงมาลัยรถจะไร้น้ำหนัก
4. เบรกจะไม่ทำงาน
183. ยางที่หมดอายุจะมีลักษณะอย่างไร
1. มีรอยแตกร้าวตามแนวขอบยาง
2. ยางจะมีสีดำสนิท
3. ยางจะมีสีขาวนวล
4. เวลาเปียกน้ำจะไม่เกาะยาง
184. ในขณะขับรถ ยางรถแตกหรือระเบิด ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
1. คุมสติ บังคับพวงมาลัย ลดความเร็วลงและไม่ควรเหยียบเบรกกะทันหัน
2. รีบเหยียบเบรกให้เร็วที่สุด
3. ปลดเกียร์ว่างแล้วรีบเหยียบเบรก
4. หมุนพวงมาลัยอย่างรวดเร็วเพื่อหลบเข้าข้างทาง
185. ในขณะที่กำลังขับรถ ถ้าฝากระโปรงหน้ารถเปิด ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
1. เบรกกะทันหัน
2. หักเลี้ยวรถเข้าข้างทางทันที เพื่อปิดฝากระโปรงให้เรียบร้อย
3. ลดความเร็วแล้วจอดข้างทาง เพื่อปิดฝากระโปรงให้เรียบร้อย
4. เหยียบคันเร่งให้มิดเพื่อฝากระโปรงจะได้กระแทกปิด
186. ข้อใดเป็นวิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อรถเกิดไฟลัดวงจร
1. ใช้ทรายสาดใส่
2. วิ่งหาน้ำมันมาราด
3. หาผ้าหนา ๆ ปิดหรือดับไฟ
4. ตัดกระแสไฟ หรือหาทางงัดขั้วแบตเตอรี่ออกก่อน
187. ลมยางล้อหน้าอ่อน จะมีผลต่อการขับขี่อย่างไร
1. เวลานั่งรู้สึกเหมือนรถจะกระตุกอยู่ตลอดเวลา
2. ยางล้อหน้าสึกหรอ พวงมาลัยหนัก และรถกินน้ำมันมากขึ้น
3. ประหยัดน้ำมันแต่เปลืองยาง
4. ประหยัดยางแต่เปลืองน้ำมัน
188. การปรับระดับที่นั่งคนขับห่างเกินไป จะมีผลอย่างไร
1. ทำให้เข้าเกียร์ได้ง่าย
2. ทำให้เบรกรถสะดวก
3. ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นชัดเจนดีมาก สามารถตัดสินใจได้ดี
4. บังคับพวงมาลัยลำบาก ใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่สะดวก
189. การตรวจสอบว่าเข็มขัดนิรภัยยังใช้งานได้ดีหรือไม่ ควรตรวจสอบอย่างไร
1. ต้องมีสีเข้ม ๆ
2. ดูว่าเข็มขัดมียี่ห้อหรือไม่
3. ดูว่าเป็นของใหม่หรือไม่
4. กระตุกดึงสายเข็มขัดอย่างเร็ว แล้วสายเข็มขัดต้องล็อก
190. ข้อใดไม่ใช่การมองที่ถูกวิธีในขณะขับรถ
1. การมองถึงสภาพของถนนที่แตกต่างกัน
2. การมองการเคลื่อนไหวของรถและคน
3. มองไปยังสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขับรถ
4. การมองเห็นฝูงสัตว์เลี้ยงกำลังข้ามถนน
191. การเข้าเกียร์ถอยหลังขณะรถยังไม่หยุดนิ่งมีผลเสียอย่างไร
1. เข้าเกียร์ยากและทำให้เกียร์เสียเร็วกว่าปกติ
2. ทำให้น้ำมันเกียร์หมดเร็ว
3. เครื่องยนต์กินน้ำมันเครื่อง
4. ไม่มีผลต่อเกียร์
192. การขับรถถอยหลังควรใช้ความเร็วระดับใด
1. ใช้ความเร็วตามสภาพของรถ
2. ถอยเหมือนกับเดินหน้า
3. ถอยช้า ๆ แล้วใช้ความระมัดระวัง
4. ถอยแบบไหนก็ได้
193. การตรวจลมยางควรตรวจเมื่อใด
1. ตรวจเมื่อไรก็ได้
2. ขณะที่บรรทุกของหนัก
3. ขณะวิ่งใช้งานแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง
4. ขณะที่ยางยังเย็นอยู่
194. ข้อใดเป็นการสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ถูกต้อง
1. ขึ้นเบรกมือ-ปลดเกียร์ว่าง -ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า-สตาร์ทเครื่องยนต์
2. ปลดเกียร์ว่าง-ขึ้นเบรกมือ-สตาร์ทเครื่องยนต์
3. เหยียบคลัตช์-สตาร์ทเครื่องยนต์
4. ปลดเบรกมือ-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า-สตาร์ทเครื่องยนต์
195. ข้อใดไม่ควรปฏิบัติขณะขับรถเมื่อฝนตกหนัก
1. ลดความเร็วลงและขับด้วยความระมัดระวัง
2. ใช้เกียร์ต่ำกว่าปกติ 1 เกียร์
3. เบรกรถอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
4. เปิดไฟหน้ารถ
196. หากเกิดฝนตกหนักจนมองเห็นทางไม่ชัดเจน ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
1. จอดรถบริเวณที่ปลอดภัย เปิดไฟหน้ารถและเปิดไฟฉุกเฉิน
2. เปิดไฟหน้าเร่งความเร็วผ่านบริเวณที่ฝนตกหนัก
3. เร่งความเร็วให้ผ่านบริเวณที่ฝนตกโดยเร็ว
4. จอดรถทันที
197. ข้อใดที่ทำให้การหยุดรถต้องใช้ระยะทางมากขึ้นจึงสามารถหยุดรถได้
1. ความรวดเร็วในการตัดสินใจ
2. ความเร็วในการเหยียบเบรก
3. น้ำหนักบรรทุกเพิ่มมากขึ้น
4. น้ำหนักบรรทุกลดน้อยลง
198. ข้อใดไม่ควรใช้เบรกมือ
1. ติดไฟแดง
2. ขับรถลงทางลาดชัน
3. จอดรถ
4. หยุดบนทางลาดชัน
199. การจับพวงมาลัยขณะขับรถทางตรง มือซ้ายและขวาของผู้ขับขี่ ควรอยู่ในตำแหน่งลักษณะใดของหน้าปัดนาฬิกา
1. ตำแหน่งเลข 2 และเลข 10
2. ตำแหน่งเลข 3 และเลข 10
3. ตำแหน่งเลข 4 และเลข 10
4. ตำแหน่งเลข 6 และเลข 10
200. ข้อใดไม่มีผลให้ระยะการหยุดรถ (ระยะเบรก) ยาวขึ้น
1. สภาพพื้นผิวถนน
2. น้ำหนักบรรทุก
3. น้ำมันหล่อลื่น
4. ความเร็วของรถ
201. ผู้ขับขี่ควรใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อใด
1. เมื่อรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ
2. เมื่อขับรถผ่านทางร่วมทางแยก
3. เมื่อจะกลับรถหรือเปลี่ยนช่องทางเดินรถ
4. เมื่อมีหมอก ฝน ฝุ่น ควัน ในทางเดินรถ
202. การฝึกขับรถแบบ “ขับไปพูดไป” มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร
1. เพื่อป้องกันไม่ให้ง่วงซึม
2. ฝึกสมองให้เกิดสมาธิและสมองทำงานสัมพันธ์กับตา
3. เพื่อให้เหมือนทฤษฎีฝรั่ง
4. เหมือนคนบ้าขับรถ
203. เมื่อเราเตรียมขับรถแซงรถคันหน้า เราควรปฏิบัติเช่นไรเป็นอันดับแรก
1. ให้สัญญาณไฟก่อน
2. ให้ดูกระจกก่อน
3. รีบเร่งเครื่องแล้วแซงได้เลย
4. เปิดไฟฉุกเฉินแล้วแซงได้เลย
204. ข้อควรปฏิบัติขณะขับรถฝ่าหมอกควันหรือฝนคือข้อใด
1. เปิดไฟหรี่
2. ขับรถช้า ๆ โดยไม่ต้องเปิดไฟ
3. เปิดไฟส่องสว่าง
4. บีบแตรแล้วขับให้เร็วเพื่อป้องกันรถคันหลังชนท้าย
205. หลังจากขับรถลุยน้ำ เมื่อเราขึ้นที่แห้งแล้วควรปฏิบัติเช่นไรเป็นอันดับแรก
1. ทดสอบเบรกหลาย ๆ ครั้ง
2. ทดสอบไฟเลี้ยวหลาย ๆ ครั้ง
3. ทดสอบสัญญาณแตร
4. ทดสอบไฟสูงต่ำ
206. ถ้าขณะขับรถเกิดยางแตกหรือยางระเบิดควรปฏิบัติเช่นไร
1. เหยียบคลัตช์อย่างเดียว
2. เหยียบเบรกโดยเร็ว
3. เหยียบคลัตช์ให้เร็วแล้วตามด้วยเบรก
4. ถือพวงมาลัยให้มั่น แล้วค่อย ๆ เบรกและนำรถเข้าข้างทาง
207. ในสภาพถนนปกติ รถพร้อม คนพร้อม ขับรถตามรถคันหน้าต้องเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเท่าใดจึงจะปลอดภัยเมื่อรถคันหน้าหยุด
1. 3 เมตร
2. 5 เมตร
3. หนึ่งช่องรถ
4. ห่างพอสมควรและสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัย
208. ข้อใดผิด
1. ห้ามพูดโทรศัพท์ขณะขับรถ
2. ห้ามหยุดรถให้คนข้ามทาง
3. ห้ามหยุดหรือจอดรถคุยกันกลางถนน
4. ห้ามแซงซ้ายในที่ห้ามแซงซ้าย
209. ท่านควรหมุนพวงมาลัยลักษณะใดในการเลี้ยงรถ
1. ปั่นพวงมาลัยและตีกลับเอง
2. ใช้วิธีคลึงไปคลึงมาบนพวงมาลัย
3. ใช้ระบบดึง-ดัน
4. หมุนระบบสอดสร้อยมาลา
210. การใช้เกียร์ขึ้นและลงเขาข้อใดถูก
1. ขึ้นและลงใช้เกียร์ต่ำ
2. ขึ้นใช้เกียร์ต่ำและลงใช้เกียร์สูง
3. ขึ้นใช้เกียร์ต่ำและลงใช้เกียร์ว่าง
4. ขึ้นและลงใช้เกียร์สูง
211. เมื่อเห็นผู้ขับขี่เกิดอุบัติเหตุควรปฏิบัติเช่นไร
1. ขับรถตามปกติ
2. ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเท่าที่จำเป็น
3. รีบขับรถหนี
4. ขับรถช้า ๆ ชะลอดูเหตุการณ์
212. เหตุใดจึงห้ามเปิดไฟสูงขณะที่ขับรถตามคันหน้าหรือรถที่วิ่งสวนทางมา
1. เพราะจะทำให้ผู้ขับรถคันหน้าและรถที่วิ่งสวนทางมามองทางไม่ชัดเจน
2. จะทำให้ผู้ขับรถคันหน้าหลับใน
3. จะทำให้เรามองทางข้างหน้าไม่ชัดเจน
4. จะทำให้รถที่วิ่งสวนทางมาหลับใน
213. การขับรถทางไกลเมื่อรู้สึกว่าตนเองง่วงควรปฏิบัติอย่างไร
1. เร่งเครื่องเพื่อให้ถึงจุดหมายโดยเร็ว
2. ขับรถหวาดเสียวเพื่อให้ระบบประสาทตื่นตัว
3. วิ่งแล้วเบรกบ่อย ๆ เพื่อให้หายง่วง
4. หยุดพัก นอน หรือยืดเส้นยืดสายตามจุดพัก หรือปั๊มน้ำมัน
214. ข้อใดไม่ใช่วิธีการขับรถที่ปลอดภัยในขณะที่ฝนตก
1. เปิดไปฉุกเฉินตลอดเวลาที่ฝนตก
2. ทิ้งช่วงห่างจากรถคันหน้า เผื่อไว้มาก ๆ
3. เปิดไฟหน้า
4. ใช้อัตราความเร็วที่ปลอดภัย
215. การฝึกขับรถแบบ “ขับไปพูดไป” มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร
1. เพื่อให้เหมือนทฤษฎีฝรั่ง
2. เพื่อป้องกันไม่ให้ง่วงซึม
3. ฝึกสมองให้เกิดสมาธิและสมองทำงานสัมพันธ์กับตา
4. เหมือนคนบ้าขับรถ
216. เมื่อเราเตรียมขับรถแซงรถคันหน้า เราควรปฏิบัติเช่นไรเป็นอันดับแรก
1. เปิดไฟฉุกเฉินแล้วแซงได้เลย
2. ให้สัญญาณไฟก่อน
3. รีบเร่งเครื่องแล้วแซงได้เลย
4. ให้ดูกระจกก่อน
217. ข้อควรปฏิบัติขณะขับรถฝ่าหมอกควันหรือฝนคือข้อใด
1. เปิดไฟส่องสว่าง
2. ขับรถช้า ๆ โดยไม่ต้องเปิดไฟ
3. เปิดไฟหรี่
4. บีบแตรแล้วขับให้เร็วเพื่อป้องกันรถคันหลังชนท้าย
218. ในสภาพถนนปกติ รถพร้อม คนพร้อม ขับรถตามรถคันหน้าต้องเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเท่าใดจึงจะปลอดภัยเมื่อรถคันหน้าหยุด
1. หนึ่งช่องรถ
2. 3 เมตร
3. 5 เมตร
4. ห่างพอสมควรและสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัย